วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

Redesigned TOEIC (English Version)

After, I got the TOEIC Score, I decided to write my article about TOEIC in English.
Why? It's my favor to do that, I wanna practice my English writing skill. hahaha
If you are Thai or your boyfriend or girlfriend is Thai, please check out this article in Thai Version.
If you prefer an poor english version, stay with me.

What is TOEIC?

TOEIC is a test for non-native English speakers to measure ability of using English in workplace in every skills. In 2012, the current TOEIC test is Redesigned TOEIC that are 2 kinds of test: 1.Reading and Listening 2. Writing and Speaking. What types of TOEIC test do I should to take? Normally, we take a Reading and Writing TOEIC. So, I will describe about this kind of TOEIC. First, There are 7 parts of Redesigned TOEIC:
      1. Photographs 10 Questions 
      2. Question-Response 30 Questions
      3. Conversations 30 Questions 
      4. Short Talks 30 Questions 
      5. Incomplete Sentence 40 Questions 
      6. Text Completion 12 Questions 
      7. Reading Comprehensive 48 Questions



How to registation TOEIC test?

For candidates in THAILAND, the examinees could call to 02-260-7061 # 101or see for more information at CPA TOEIC THAILAND. The examinees could take TOEIC exam every MON-SAT twice rounds per day ( 9.00AM and 1.00 PM). The examinees should call and reserve a seat before test date. In case of cancel a TOEIC test, the examinee should call to CPA to cancel it. if she/he doesn't do it, she/he is charged for the next test 500 THB.

Test place: B.B. Tower (near Grammy Tower, Sukumvit)
How to get there: MRT Phetburi and walk to BB tower aroud 7 min.

Document is required for registation in test date.
1. Identification or Passport or Driver licence Smart Card.
2. Cash 1500 THB

For other countries, you can register online, please visit this website.
How to prepare yourself to get ready for TOEIC

Since TOEIC test measure ability of Listening and Reading, so, practicing the TOEIC exam is very important in preparing. Several persons ask for where should I learn TOEIC, I couldn't answer this question because I have never take a TOEIC course before hahaha. However, I could improve my score from 500++ to 835 is example that you could improve TOEIC score without taking TOEIC course or tutor. So, studying TOEIC by yourself is a main key to get a good score.

What is a good TOEIC BOOK!
I am proud to present good book that I used to practice TOEIC. NO.1 book is Longman Practice exam which are many series in this book. The advantage of this book is there are many exams that you could practice a test what you want. In addition, the difficulty of the exam is very close of the real exam. I really love this book so I would like to recommend it to you. However, the important thing for choose the book is the version of TOEIC test, you should consider that TOEIC book is for redesigned TOEIC not the old version TOEIC.

How to do in test date?
In test date, you should go the test place before at least 1 hr. to registation and prepare yourself to get ready to take a test. The staff at test place would ask you to take a photo if you want a good picture in the score, don't forget to dress beautifully haha.
        You could take anything except wallet and your identification. No mobile is allowed. In the test room, you should concentrate in the test at the first time you go to test room. Don't take a nap because when you wake up, you wouldn't feel uncomfortable a little bit. The TOEIC staff would tell something to introduce test around 1 hr before test is started. Don't forget concentrate a test!!

Are you ready to take a TOEIC test??
** please follow me for next article about technique to get high score TOEIC test.

TOEIC Score from 500++ to 835

ในที่สุดคะแนน TOEIC ก็ส่งมาถึงมือจาก จากผู้ที่เคยเข้าไปมั่วนั่งเอ๋อเร๋อได้ 500 นิดๆ
และแล้ว หนุนก็ทำสำเร็จ 835 จ้าเปิดซองมาแทบตะลึงในความงามของตัวเลข
Reading ห่วยไปหน่อยครั้งหน้าเอาใหม่ เอาให้ทะลุ 1000 ไปเลย 5555+
Love you, TOEIC





















วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555

TOEIC Practice Part 3 and 4


ต่อจากตอนที่แล้ว TOEIC และการสมัครสอบ , TOEIC Practice Part 1 , TOEIC Practice Part 2
พร้อมจะลุยกันยัง TOEIC Part 3 "Conversation" TOEIC Part 4 "Short talk" ภาคจบของ listening TOEIC


TOEIC Part 3 หน้าตาเป็นเยี่ยงไรน้า

เราจะได้ยิน 10 short conversations ระหว่างสองคนคุยกันกะหนุงกะหนิง แล้วมันคำถามให้ตอบสามข้อต่อหนึ่ง conversation 

คำถามส่วนใหญ่จะถามว่า
1. What is the main purpose of this conversation? / What is the man's problem?
2. What is the woman's suggestion?
3. What does the man should do?

ประมาณ 50% จะเป็นผู้หญิงผู้ชายปรึกษาปัญหาชีวิตกัน แล้วอีกคนก็มีนำ้ใจงามให้คำแนะนำ 
ที่เหลือจะเป็นนัดประชุมงาน นัดส่งงาน ตามทวงงาน ชวนออกเดต ชวนไปเที่ยวเต๊ตเตร่




TOEIC Part 4 หน้าตาเป็นเยี่ยงไรน้า

เราจะได้ยิน 10 short talks แล้วมันคำถามให้ตอบสามข้อต่อหนึ่ง talk 
คำถามส่วนใหญ่จะถามว่า
1. What is the main purpose of this announcement? 
2. Where is this announcement take place? / where is this announcement being heard?
3. Who is the speaker? Who is listening to this announcement?

ส่วนใหญ่จะเป็น ประกาศในห้างว่าห้างจะปิด ห้างจะลด midnight sale บริษัทจะจ้างคนเพิ่ม บริษัทแนะนำลูกน้อง forecast weather 




Technique TOEIC PART 3 & PART 4


1. ตอนจบพาร์ท 2 ระหว่างที่เค้าบอก direction ของ Part 3 ต้องรีบอ่านคำถามทั้ง 3 ข้อให้หมด และขีดเส้นใต้คำสำคัญ และเมื่อจบ conversation หรือ talk ให้รีบฝนคำตอบอย่างเร็วสุดชีวิต และรีบอ่านสามคำถามของข้อถัดไป พร้อมทั้งขีดเส้นใต้คำศัพท์ที่สำคัญ ยกตัวอย่างเช่น

Why would someone leave his or her name?
A. To get on a mailing list.
B. To cancel a room reservation.
C. To apply for any available job.
D. To be put on a waiting list.

**การขีดเส้นนี่แล้วแต่ความชอบบางทีก็ขีดทั้งข้อ 55555 แล้วแต่อารมณ์เพราะตอนนั้นไม่มีเวลาเยอะอย่าคิดมาก ที่สำคัญอ่านให้จบทุกข้อนี่จำเป็นจริงๆ 

2. ได้คำตอบแล้วกาไปในตัวข้อสอบก่อน แล้วค่อยฝนทีเดียวหลังจากได้คำตอบครบทั้ง 3 ข้อ ส่วนตัวคิดว่าการฝนคำตอบ ก็ต้องใช้สมาธินิดนึง เพราะฉะนั้นอาจจะไปรบกวนการฟังได้ สำหรับผู้ที่สติไม่แน่นพอ ถ้าใครฝึกจนลมปราญเก่งกล้า ก็ฝนไปเลยท่านจอมยุทธ
3. ถ้าอ่านคำถามไม่ทันจริงๆ ก็เดาไปก่อนว่ามันจะมีคำถามประมาณที่บอกไปแล้ว แล้วหันมาฟัง พร้อมทั้งจดโน๊ต ถ้าอ่านคำถามทันคิดว่า take note ไม่จำเป็นเพราะมันเป็น listening  สั้นๆ จริงๆ เสียเวลา
4. กาผิดมาร์กๆ ไว้ก่อนแล้วมาแก้เมื่อจบ Listening part 4 จะอ่านโจทย์ข้อต่อไปไม่ทันเอา
5. ถ้าไม่ได้มั่วไปเลย เสียน้อยเสียมากเสียยากเสียง่าย มันจะไปกระทบต่อข้อต่อไป อ่อนวอนเค้ายังไงเค้าคงไม่พูดกะเราข้อเดิมอีกแล้ว ผ่านๆไป มั่ว B&C 5555+
ที่สำคัญของพาร์ททั้งสองนี้คือ สติเพราะห้ามหลุด กาเสร็จรีบอ่านโจทย์ เหนื่อยมาก

ในที่สุดก็จบ TOEIC Listening Practice ซะทีเจอกันงวดหน้า Reading สุดโหด


TOEIC Part 2 Practice

ต่อจากตอนที่แล้ว TOEIC และการสมัครสอบ และ TOEIC Practice Part 1
เรามาต่อกันที่ TOEIC Practice Part 2 กันเลยน้าาา 
Part นี้ชื่อว่า Question and Response

TOEIC Part 2 หน้าตาเป็นเยี่ยงไรน้า

พาร์ทนี้เราจะได้ยินคำถาม และช้อย 3 ตัวเลือก ให้เลือกว่าตัวเลือกไหนคือคำตอบที่ถูกต้องอ่าาา
มาดูตัวอย่างเพื่อความเข้าใจอันถ่องแท้กันดีกว่า จะได้ยินดังต่อไปนี้นะ

Where is the meeting room?
A. To meet the new director.
B. It's the first room on the right.
C. Yes, at two o'clock.

คำตอบคือ B ง่ายจริงไรจริงใช่ไหม ก็อ่านเอานี่นาตัวเธอ มันก็ยากตรงฟังเนี่ยแหละน้า~~~~~ ไม่บ่นมากไปดูวิธีและเทคนิคการทำกันดีกว่า

Technique for TOEIC Part 2

1. พยายามจด WH- Question : what, where, when, why, how หรือ YES-No question: do, does, did, would, are, is แค่ฟังให้ออกว่าคำถามถ้าแบบไหนก็ตัดช้อยไปมากแล้ว เช่นโจทย์ถาม when ถ้าไม่มีวันตอบ at 6 o'clock คำถามมากกว่า 50% หลอกด้วยวิธีนี้
2. ถ้า WH-Question ถ้าตัวเลือกตอบ YES-NO  ก็รู้เลยคำตอบนี้พยายามหลอกลวงเรา ตัดหางปล่อยวัดตัวเลือกนั้นไปอย่างรวดเร็ว
3. แต่ Yes-No question ส่วนใหญ่จะหลอกด้วยการตอบขึ้นมา YES,NO แต่เนื้อหาข้างหลังผิดไป เพราะฉะนั้นก็อย่าโดนหลอกง่ายๆ
4. ถ้าฟังไม่ออกแล้วทำไงดี? แนวทางมั่ว ถ้าตัวเลือกไหนมีคำศัพท์คำเดียวกับคำถามอย่าไปเลือก เพราะมันหลอกเราชัวร์ๆ อย่าลืมตัดตัวเลือกที่ไม่เกี่ยวข้องที่เราฟังออก ถ้าไม่รู้จะมั่วไรมั่ว B อันนี้คิดเอง 55555

พาร์ทนี้เป็นพาร์ทที่ควรเก็บคำแนน เพราะง่ายและมี 30 ข้อแหน่ะ อย่าลืมหัดทำเยอะๆนะจ๊ะ มันถามวนไปวนมา Would you like something to drink? Are you free on Friday? When do you finish your report? อะไรทำนองนี้แหละ คำถามทั่วๆไปในชีวิตประจำวัน ฝึกเยอะๆ ทำได้ชัวร์ fighting!!!

TOEIC Practice Part 1

ต่อจากตอนที่แล้ว การสมัครและเตรียมตัวสอบ TOEIC ในบทนี้เราจะมาพูดถึง 
แนวข้อสอบ และ Technique การทำข้อสอบ TOEIC ใน Part 1 ซื่งก็คือ Photographs ซึ่งเป็น หนึ่งในสี่ Listening Parts ของ TOEIC

 TOEIC Part 1 หน้าตาเป็นแบบไหนนะ?



ในพาร์ทนี้มี 10 ข้อด้วยกัน โดยในแต่ละข้อจะมีรูปมาให้ใน exam booklet แล้วจะให้ฟังตัวเลือกสี่ตัวเลือก ให้เลือกว่าตัวเลือกไหนบรรยายได้ตรงตามรูป ตัวอย่างเช่น ผู้สอบจะเห็นรูปตามข้างล่างในตัวข้อสอบ


ผู้สอบจะได้ยินดังต่อไปนี้
A) They're leaving the room.
B) They're turning on the machine.
C) They're standing near the table.
D) They're reading the newspaper.

ตัวเลือกที่ถูกคือ  C เพราะฉะนั้นก็ฝนข้อ C ซะนะที่รัก 

** ตัวอย่างนี้คือ ตัวอย่างจริงๆ ในข้อสอบ TOEIC ณ ปัจจุบัน


Technique for TOEIC EXAM Part 1

เทคนิคคือ
1. ดูภาพก่อนล่วงหน้า ทำข้อแรกเสร็จต้องรีบดูข้อถัดไปก่อน
2. ต้องรีบ scan ภาพว่าใครทำอะไร ที่ไหน มีอะไรบ้างในภาพ ให้พยายามคิดคำศัพท์ที่โจทย์จะพูดให้มากที่สุด
           3. ถ้าเป็นภาพคน
               - ถ้ามีหลายคนมากกว่าสองขึ้นไป ต้องคิดและว่า Pronoun ที่ใช้ควรไม่ใช่เอกพจน์ (he, she, it) เหมือนในตัวอย่างใช้ They ถ้าช้อยไหนใช้ pronoun ผิดก็ตัดทิ้งไปซะ
               - ช้อยลวงมักให้คน หรือกลุ่มคนทำกริยาผิดไปจากเดิม เช่นตัวอย่าง A,B,D เป็นต้น
               - ช้อยลวงบางทีมั่วสุดโต่ง เช่น D ในตัวอย่าง newspaper ไม่มีในรูปแน่นอน ถ้าได้ยินไรแปลกๆ ตัดไปเลย
               - ช้อยลวงมักพูดคำศัพท์ที่เสียงใกล้เคียงกัน แต่ความหมายก็มั่วสุดโต่งเหมือนกัน
           4. ถ้าเป็นภาพวิว
               - มักมีจำนวนน้อยกว่าภาพคน ส่วนใหญ่เป็น โรงงาน โรงแรม ถนนรถติด 
           5. ถ้าได้ยินคำตอบไหนที่น่าจะใช่ให้เขียนเอาไว้ข้างๆ ก่อน
           6. ถ้าทำไม่ได้ อย่าคิดนานให้กาก่อนคำพูด Look at the picture marked number.... พูดจบ เพราะจะอาจจะฟังไม่ทัน อย่าลืมว่าเวลาตอบคำตอบต้องฝนคำตอบซึ่งใช้เวลาพอสมควร

พาร์ทนี้มีแค่ 10 ข้อ ทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร สำหรับคนที่ไม่ต้องการคะแนนแบบเทพ 800++ อะไรแบบนี้นะ ถ้าไม่มีเวลาฝึกก็ผ่านไปเลยก็ได้ 

วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2555

Everything about Redesigned TOEIC 2012


"Miracle is another word of Effort"
หลังจากได้ไปสอบ TOEIC รอบใหม่มาสดๆ ร้อนๆขอ review สักกะหน่อยสำหรับคนที่ต้องการไปสอบด้วยเหมือนกัน 
ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของเราหรอกนะเอาหล่ะมาเริ่มกันเลย ลุย!

TOEIC คืออะไร

หลายๆ คนคงรู้อยู่แล้ว เอาไว้สมัครงานไงหล่ะเธอ (พูดเหมือนตอนฟัง instruction ตอนทำข้อสอบ 5555) TOEIC ปัจจุบัน (2012)  คือ Redesigned TOEIC โดยจะแบ่งเป็น 2 แบบหลักๆ คือ Reading and Listening และ Writing and Speaking 
แล้วจะสอบแบบไหนดีหล่ะ? โดยทั่วๆไปที่เค้าใช้กันก็จะสอบแบบ Reading and Listening ซึ่งข้อสอบแบ่งออกเป็น 7 Parts ด้วยกัน ดังนี้
      1. Photographs 10 Questions 
      2. Question-Response 30 Questions
      3. Conversations 30 Questions 
      4. Short Talks 30 Questions 
      5. Incomplete Sentence 40 Questions 
      6. Text Completion 12 Questions 
      7. Reading Comprehensive 48 Questions
***จะบอกละเอียดในบล๊อกต่อไปนะคะ

สมัคร TOEIC อย่างไรหล่ะ

สามารถโทรไปจองรอบสอบได้ที่เบอร์ 02-260-7061 ต่อ 101 หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CPA TOEIC THAILAND
โทอิคมีสอบทุกวัน จันทร์ - เสาร์ วันละสองรอบ 9.00 AM, 1.00PM จองก่อนวันสอบหนึ่งวัน ถ้าจองแล้วไม่ไปสอบและไม่โทรไปแคนเซิลก่อนวันสอบจะโดนค่าธรรมเนียมในการสอบถัดไป 500 บาท อย่าไปกั๊กที่นั่งเค้านะจ๊ะตัวเอง

สถานที่สอบ: B.B. Tower ใกล้ๆ ตึกแกรมมี่อ่ะ
วิธีการเดินทาง: MRT เพชรบุรี แล้วเดินไปประมาณ 7 นาที เดินได้ไม่เหนื่อย นั่งมอไซด์ก็ดี นั่งแท็กซี่ก็ยิ่งดีสบาย~ 
วันสอบเตรียมตัวไปอย่างไร
สิ่งที่ต้องนำไป 
1. บัตรประชาชน หรือพาสปอร์ต หรือ ใบขับขี่ Smart card 
2. เงิน 1500 บาท 
3. เตรียมใจให้พร้อมไปโลด

เตรียมตัวสอบ TOEIC อย่างไรดี

เนี่องจาก TOEIC วัดระดับความรู้เฉพาะใน Listening และ Reading เพราะฉะนั้นการหัดทำข้อสอบจึงจำเป็นมาก หลายคนถามว่าไปเรียน TOEIC ที่ไหนดี ตอบไม่ได้เหมือนกันเพราะไม่เคยเรียน 555 (แล้วจะพูดทำไม) แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านสมรภูมิการสอบ และเรียนพิเศษภาษาอังกฤษมาสารพัด ก็ทำให้รู้ว่าการเตรียมตัวสำหรับการสอบแบบนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าการอ่านและฝึกฝนด้วยตัวของตนเอง 
หนังสืออ่านของอะไรดีนะ?
สำหรับคนที่มีพื้นฐานดีอยู่พอสมควร หนังสือที่แนะนำคือ Longman Practice exam หัดทำไปเลยไม่ต้องอ่านมันแล้วเสียเวลา ส่วนตัวดาว์โหลดมาจาก คุณพี่บิททอเรอเร้น ถ้ามีใครอยากได้เดี๋ยวอัพให้ ความยากง่่ายประมาณได้กับสอบจริงเลยทีเดียว เจ๋งมากกกกก ลืม barrons ก็ดีนะแต่ชอบ longman มากกว่า
สำหรับคนไม่มีพื้นฐานหล่ะทำไงดี หนังสือที่เหมาะสำหรับตัวเองคือ หนังสือภาษาไทย ที่เห็นดังๆ ก็ของ ผศ. นเรศ เอามาอ่านในพาร์ทต่างๆ ของ Reading อ่านแค่ grammar พอพาร์ทอื่นๆ ก็ต้องฝึกเองอยู่ดี ข้อระวังในการเลือกหนังสือ หนังสือบางเล่มเป็น TOEIC แบบเก่าเพราะฉะนั้นอ่าน ให้ดีว่าเป็น redesigned TOEIC หรือไม่ 
**จะฝึกแต่ละพาร์ทอย่างไรขอยกไปหัวข้อหน้า

วันสอบแล้วเอาไงดีหล่ะ ตัวเอง เค้ากลัวววว
วันสอบเจ้าหน้าที่จะบอกให้มาก่อนหนึ่งชั่วโมง เพื่อลงทะเบียนและจ่ายเงินค่าเสียหาย อันนี้สำคัญมาก ก็ควรไปตามเวลานั้นแต่ไม่ควรไปก่อนมากถ้าเป็นวันเสาร์เพราะคนเยอะมากมาย ไม่มีที่นั่งเพียงพอ ต้องกลายเป็น homeless นั่งตามทางเดินเห็นแล้วละเหี่ยใจตัวเอง ถ้าสาวสวยใส่กระโปรงคงลำบากหน่อย หลังจากที่ถ่ายรูป และชำระเงินเรียบร้อย ผุ้ที่สอบจันทร์-ศุกร์ จะรับผลได้ในวันถัดไป แต่ผู้ที่สอบวันเสาร์จะรับผลได้ในอังคารถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกมารับด้วยตนเอง และอยากสนับสนุนการไปรษณีย์ไทยของเรา TOEIC เค้าก็จะให้ซองมาหลังจากสอบเสร็จและเขียนชื่อพร้อมชำระเงิน 50 บาทเพื่อส่งตรงถึงมือท่านด้วย EMS กันเลยทีเดียว
         ก่อนเวลาสอบสิบห้านาที ก็จะให้เข้าห้องสอบได้ ของที่เอาเข้าห้องสอบได้คือ กระเป่าสตางค์ และบัตรปชช พร้อมบัตรสอบเท่านั้น เครื่องเขียนเค้ามีให้นะจ๊ะ ส่วนของอย่างอื่นเค้าให้วางไว้ที่ชั้น ถ้าหายก็ไม่มีการรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้นเพราะฉะนั้น iPad, Macbook, iPhone, i-mobile อะไรทั้งหลายแหล่ก็ไม่ต้องเอาไป เค้าเตือนแล้วนะตัวเองงงง
         เข้าห้องสอบเสร็จเค้าก็จะให้ฟังอะไรนิดหน่อย แล้วใส่รายละเอียดตัวเองลงในกระดาษข้อสอบก่อนสอบ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. อย่าเผลอหลับหล่ะ ให้ตั้งสมาธิแต่ไม่ต้องสวดมนต์นะ ตั้งสมาธิให้ดีตั้งแต่นี้เลยจะได้มีสติพร้อมสำหรับ Listening เพราะส่วนตัวเคยคิดว่าหลับตาสักนิดก่อนสอบดีกว่าตื่นมาจะได้สมองปลอดโปร่ง อ่าวเห้ยพอตื่นมาเย้ยปวดหัว ฟังหลุดไปนิดนึงเซ็งเป็ดมาก เพราะฉะนั้นตั้งสมาธิไปเลยดีสุด

พร้อมหรือยังมาฝึกแต่ละพาร์ทกันดีกว่า 
** ติดตามชมได้ในตอนต่อไป หิวข้าวจังงงงงง